หลายคนตั้งเป้าหมายว่าอยากไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในอังกฤษและสหราชอาณาจักร ซึ่งคงไม่ต้องบอกเหตุผลว่าทำไม เพราะคำถามที่สำคัญกว่านั้นคือ ทำยังไง? มีขั้นตอนอะไรบ้าง?
สำหรับน้องๆ หลายคนที่ยังไม่ค่อยเข้าใจระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักร หรือขั้นตอนการสมัครเรียน นี่คือ Guidelines คร่าวๆ แบบเข้าใจง่าย ที่ควรรู้ไว้ประกอบการตัดสินใจครับ
1. การเตรียมตัว และคุณสมบัติของผู้สมัครที่ต้องมี
ก่อนอื่น น้องๆ ควรทำความเข้าใจกับระบบการสมัครเรียน ที่เรียกว่า UCAS หรือ the Universities and Colleges Admissions Service ก่อน (คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติม) ซึ่งจะคล้ายๆ กับระบบ Admission บ้านเรานั่นเอง แต่อาจจะมีรายละเอียดที่แตกต่างออกไป
จากนั้นก็ถึงเวลาเลือกหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่ตรงกับใจน้องๆ มากที่สุด เชื่อว่าทุกคนน่าจะมีหลักสูตรหรือสาขาวิชาที่ตัวเองสนใจอยู่แล้ว แนะนำให้ลองเสิร์ชหาหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนจากอินเทอร์เน็ต หรือใช้ ระบบการค้นหาหลักสูตร ของ SI-UK ก็ได้ ลิสต์หลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่สนใจเอาไว้ แล้วมาดูเรื่องของคุณสมบัติในการสมัครเรียนของแต่ละหลักสูตร ของแต่ละมหาวิทยาลัย ว่าเรามีคุณสมบัติพร้อมสำหรับการสมัครเข้าเรียนหรือไม่ จะได้เตรียมตัวและสมัคร UCAS ได้ทันเวลา เอกสารที่ต้องมีคือ
- เอกสารแสดงผลการเรียน
- จดหมายแนะนำตัว (SoP or Personal Statement) และจดหมายรับรองภาษาอังกฤษ (Letters of Recommendation)
- หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ
- ผลสอบ IELTS
- หลักฐานแสดงฐานะทางการเงิน หรือ Bank Statement
- หลักฐานการตรวจสุขภาพ ( TB Test เอ็กซเรย์ตรวจวัณโรค)
- เอกสารอื่นๆ
ยกตัวอย่างเช่น หากน้องๆ อยากเรียนในลอนดอน น้องก็ควรจะมีเอกสารทางการเงินที่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เรามีเงินสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างต่ำ 1,265 ปอนด์ต่อเดือน (ประมาณ 47,210 บาท) อันนี้ไม่รวมค่าเล่าเรียน หรือถ้าเป็นเมืองอื่น นอกลอนดอน ก็จะอยู่ที่ 1,015 ปอนด์ต่อเดือน (ประมาณ 37,880 บาท) เป็นต้น สำหรับใครที่มั่นใจว่ามีทุนทรัพย์พอแน่นอน ก็สามารถไปขอ Bank Statement สำหรับไว้ใช้สมัครวีซ่าเตรียมไว้ได้เลย ลองอ่านบทความ ไขข้อข้องใจทุกเรื่องเกี่ยวกับ Bank Statement กับการไปเรียนต่อต่างประเทศ จะได้เข้าใจมากขึ้นถึงความสำคัญของ Bank Statement ครับ
ส่วนเรื่องของการสมัคร แนะนำให้เข้าไปดูกำหนดการรับสมัคร ในเว็บ UCAS เป็นระยะๆ หรือในเว็บไซต์ของ SIUK หัวข้อ University Deadlines ก็ได้ เพื่อที่จะได้ไม่พลาดเดดไลน์ต่างๆ สำหรับคนที่อยากสมัครหลักสูตรทางการแพทย์อย่าง medicine, veterinary science และอื่นๆ หรืออยากสมัครมหาวิทยาลัยกลุ่ม Oxbridge อย่าง Oxford และ Cambridge ยิ่งต้องเช็คให้ดี เพราะกำหนดการสมัครมักเริ่มต้นเร็วและปิดเร็ว (ประมาณกลางเดือนตุลาคมของทุกปี) ต้องวางแผนกันเป็นปีๆ เลยทีเดียว
ในการสมัคร UCAS รอบปกตินั้น เราสามารถเลือกหลักสูตรและมหาวิทยาลัยได้ 5 อันดับ และอย่าลืมจดหมายเลขรหัส หรือ code ของหลักสูตรและมหาวิทยาลัยทีเราสมัครเอาไว้ด้วย
2. การเขียนจดหมายแนะนำตัวภาษาอังกฤษ (SoP or Personal Statement)
จดหมายแนะนำตัวมีความสำคัญมากจริงๆ เพราะนี่คือสิ่งที่จะทำให้น้องๆ ดูโดดเด่นหรือแตกต่างจากผู้สมัครคนอื่นๆ ที่อาจจะมีผลการเรียนหรือแบ็คกราวน์คล้ายๆ กัน ปกติแล้ว ตัวจดหมายควรยาวไม่เกิน 47 บรรทัด หรือไม่เกิน 4,000 ตัวอักษร วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อขายตัวเอง ว่าเรามีคุณงามความดีที่เหมาะสมจะเรียนในหลักสูตรนั้นๆ ยังไง เรามีความทุ่มเทและความสนใจต่อสาขาที่ต้องเการเรียนมากแค่ไหน อะไรที่เราสนใจ มีอะไรที่เราสามารถทำเพื่อมหาวิทยาลัยได้บ้าง และเหตุผลที่เราเลือกเรียนในหลักสูตรนี้ เป็นต้น
แนะนำให้ลองอ่านบทความ เขียน SoP หรือ Statement of Purpose ยังไงให้โปรไฟล์ของคุณดูโดดเด่น ดูครับ จะได้เห็นรายละเอียดมากขึ้น
3. การสมัครเรียนผ่านระบบ UCAS
การกรอกใบสมัครเรียน จะทำเป็นแบบออนไลน์บนเว็บไซต์ของ UCAS ซึ่งไม่ยากสำหรับน้องๆ ที่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษอยู่แล้ว เพราะจะมีขั้นตอนแนะนำให้ทำตามได้ง่ายๆ น้องๆ จะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว ใส่ UCAS code ขอหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่เราได้เลือกไว้ และ จดหมายแนะนำตัวภาษาอังกฤษ
สำหรับค่าสมัคร UCAS ปัจจุบันจะอยู่ที่ 13 ปอนด์ ถ้ายื่นสมัครแค่มหาวิทยาลัยเดียว หรือ 24 ปอนด์ ถ้ายื่นตั้งแต่ 2-5 มหาวิทยาลัย จ่ายค่าสมัครแล้วก็รอนั่งรอนอนรอผลการสมัครอยู่บ้านได้เลย หากผ่านเกณฑ์การรับสมัครของมหาวิทยาลัย น้องๆ จะได้รับ เอกสารการตอบรับให้เข้าเรียนหรือ CAS form (Confirmation of Acceptance of Studies) ซึ่งเป็นเอกสารออนไลน์ (virtual document) จากทางมหาวิทยาลัยโดยตรง เซฟเก็บไว้ให้ดีนะครับ อย่าให้หาย นี่เป็นเอกสารที่สำคัญมากสำหรับการสมัครวีซ่านักเรียน หรือ student visa ต่อไป นอกจากนี้ มันยังมีข้อมูลสำคัญที่น้องๆ ควรทราบ เช่น รายละเอียดของหลักสูตรที่จะเรียน วันเริ่มต้นภาคเรียน ค่าเล่าเรียน และการยืนยันอย่างเป็นทางการในการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย เป็นต้น
แต่สำหรับใครที่ภาษายังไม่แข็งแรง หรือไม่ค่อยมั่นใจ รู้สึกว่ายุ่งยากวุ่นวายถ้าจะให้ทำเอง ก็สามารถลงทะเบียนติดต่อให้เจ้าหน้าที่ของ SI-UK ช่วยสมัครได้เช่นกัน วิธีนี้จะชัวร์ที่สุดครับ เราช่วยน้องๆ กรอกใบสมัครฟรี เรียกว่าช่วยสมัครฟรีทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เลย
อย่ารอช้า ลงทะเบียนติดต่อเจ้าหน้าที่ของ SI-UK ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาเกี่ยวกับหลักสูตร มหาวิทยาลัย การเตรียมเอกสาร ขั้นตอนการสมัคร และความช่วยเหลือในการยื่นใบสมัครเรียนฟรี
SI-UK Education Day สัมมนาวางแผน เพื่อเรียนต่อ UK
เสาร์ 14 กันยายน 2562 เสาร์ เวลา 13:00 - 15:00 ที่ SI-UK Bangkok Office
เริ่มต้นวางแผนเรียนต่อในประเทศอังกฤษและสหราชอาณาจักรก่อนใคร กับกิจกรรม SI-UK Education Day สัมมนา วางแผนแต่เนิ่นๆ เพื่อเตรียมความพร้อม ปูพื้นฐานและแนะนำการวางแผนศึกษาต่อในสหราชอาณาจักร สำหรับนักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจ ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมฟรี
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ว่าด้วยเรื่อง Recommendation Letters (จดหมายรับรอง)
อัพเดต มหาวิทยาลัยและหลักสูตร ป.โท ที่เปิดรับสมัครในช่วง January intake 2020