สำหรับใครที่กำลังวางแผนที่จะไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ หรือสหราชอาณาจักร และกำลังค้นหาข้อมูลเรื่องหลักสูตรหรือสาขาที่จะเรียนต่อ ก็คงเคยเจอกับตัวย่อของแต่ละหลักสูตรมากมาย เช่น MA, MSc หรือจะเป็น MSt เป็นต้น ซึ่งก่อนหน้านี้ SI-UK เคยนำเสนออักษรย่อเหล่านี้ในระดับปริญญาโทประเภทตามหัวข้อวิชาไปแล้ว (MA, MSc, MRes, MPhill และ MSt คืออะไร และแตกต่างกันอย่างไร?)
ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงอีกหนึ่งประเภทของการเรียนต่อป.โท ที่ UK กัน นั่นก็คือประเภทปริญญาโทตามหัวข้อเฉพาะทางกัน โดยจะมีตัวย่อของหลักสูตรหลักๆคือ MBA, MLS, MPA, LLM, MA รวมถึง MPH, MSW, MFA, MM หรือ MMus, MEd และ MArch นั่นเอง
ปริญญาโทประเภทตามความเฉพาะทาง
การศึกษาระดับปริญญาโทในประเภทตามความเฉพาะทาง เป็นหลักสูตรที่จะเน้นการศึกษาเฉพาะด้านที่เป็นประโยชน์กับการพัฒนาในสายอาชีพเท่านั้น โดยอาจจะเรียกว่าเป็น tagged master's degrees (tagged = ถูกติดป้าย) ซึ่งบางครั้งชื่อปริญญาประเภทนี้มั้กจะขึ้นต้นด้วยคำว่า Professional เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเฉพาะเจาะจงในสายอาชีพ เช่น Professional Science Master’s Degree (PSM) เป็นต้น โดยวันนี้เราจะมาดูหลักสูตรที่ถูกแบ่งประเภทตามความเฉพาะทาง แต่อย่างไรก็ตามชื่อและเนื้อหาอาจมีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสถาบันและประเทศนั้นๆนั่นเอง
- Master of Business Administration (MBA) หลักสูตร MBA นี้ได้ถูกออกแบบเพื่อให้นักศึกษามีทักษะและความรู้สำหรับประกอบอาชีพทางการจัดการและธุรกิจ โดยนักศึกษาจะได้รับการสอนในทุกด้านของธุรกิจ ทำให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานในหลากหลายอาชีพ นักศึกษาที่มาเรียนส่วนใหญ่ก็อยู่ในวัยทำงาน ซึ่งบางครั้งอาจกำหนดให้ผู้สมัครเรียนต้องมีประสบการณ์ทำงาน 3 ปีขึ้นไป และนอกจากนี้เรายังสามารถที่จะเลือกเรียน MBA ไปพร้อมกับวิชาเฉพาะทางอื่น ๆ เช่น การบัญชี และการเงิน เช่น Master of Professional Accountancy (MPAcc) และ Master of Science in Information Systems (MSIS).
- Master of Library Science (MLS, MLIS, MSLS) หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่จะทำให้นักศึกษาได้รับทั้งความรู้จากการเรียนให้ห้องเรียนและการทำงานในสถานที่ทำงานจริง นั่นก็คือห้องสมุด! โดยนักศึกษาอาจจะได้มีโอกาสฝึกงานในห้องสมุดต่าง ๆ แต่ก่อนจะจบหลักสูตรได้ก็ต้องส่งโครงงานวิจัยหรือวิทยานิพนธ์ด้วย
- Master of Public Administration (MPA) สำหรับ MPA หลักสูตรนี้จะมีเนื้อหาวิชาที่คล้ายกับ MBA แต่จะต่างกันที่ MPA จะศึกษาในส่วนของสาธารณะมากกว่าในส่วนของบุคคล โดยจะสามารถเลือกเรียนในหัวข้อต่าง ๆ เช่น การบริหารระหว่างประเทศ และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเป้าหมายในการทำงานราชการ เอกชน องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งการเรียนการสอนจะเน้นไปที่การวิเคราะห์นโยบายด้านการบริหารอีกด้วย เช่น หลักสูตรที่เกี่ยวข้องคือ Master of Public Policy (MPP), Master of Public Affairs (MPA) Master of Urban Planning (MUP) และ Master of International Affairs (MIA)
- Master of Public Health (MPH) หลักสูตรนี้จะเน้นการศึกษาทั้งในส่วนทฤษฎีและวิชาชีพเพื่อให้สอดคล้องกับงานสาธารณสุข นักศึกษาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการวินิจฉัย และการควบคุมงานสาธารณสุขของชุมชนผ่านนโยบายสาธารณะ รวมถึงยังมีการศึกษาในเฉพาะทางต่างๆ เช่น ระบาดวิทยา สาธารณสุขโลก และวิทยาศาสตร์อาหาร นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่สำคัญก็คือในขณะที่หลายประเทศยอมรับเฉพาะนักศึกษาแพทย์ แต่บางประเทศก็มีการยอมรับนักศึกษา MPH ให้ดูแลงานในส่วนที่กล่าวมาเช่นกัน ดังนั้นหลักสูตรนี้จึงเป็นอีกหนึ่งหลักสูตรที่น่าสนใจไม่แพ้กับหลักสูตรแพทยศาสตร์เลย
- Master of Social Work (MSW) เป็นหลักสูตนที่จะเน้นให้ในเรื่องความพร้อมสำหรับงานสังคมสงเคราะห์ รวมถึงด้านการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของบุคคล และสังคม อีกทั้ง MSW ยังแบ่งออกเป็น clinical degree เพื่อที่จะสอนให้ลงมือทำงานโดยตรงกับ macro-practice degree ที่จะศึกษาเกี่ยวกับการทำงานด้านการจัดการชุมชน และงานสนับสนุนทางการเมืองนั่นเอง
- Master of Laws (LLM) หลักสูตร LLM นี้ถือเป็นอีกหนึ่งหลักสูตรยอดนิยมกันเลยทีเดียว ซึ่งหลายคนมักจะเรียนต่อเนื่องมาจากปริญญาตรีทางด้านกฎหมาย โดยจะเปิดโอกาสให้นักศึกษารวบรวมความรู้ และทักษะพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อใช้ประกอบอาชีพด้านทนายความเพื่อให้มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านนั่นเอง
- Master of Arts in Liberal Studies (MA, MALS, MLA/ALM, MLS) เป็นหลักสูตรที่ผสมความรู้หลายด้านของศิลปศาสตร์ โดยจะเรียนรู้ทั้งแบบเจาะลึกและแบบกว้าง โดยทั่วไปนักศึกษาจะเลือกหลักสูตรนี้เพื่อความชอบส่วนตัว และค้นหาไอเดีย มากกว่าเรียนไปเพื่อประกอบอาชีพนั่นเอง
- Master of Fine Arts (MFA) ถือเป็นอีกหนึ่งหลักสูตรที่อาศัยความคิดสร้างสรรค์ โดยสามารถเลือกเรียนได้ทั้งด้านทัศนศิลป์ ศิลปะการแสดง งานเขียนเชิงสร้างสรรค์ และการถ่ายทำต่าง ๆ นอกจากนี้ยังรวมถึงด้าน graphic design อีกด้วย ซึ่งการเรียนและการประเมินจะเป็นแบบปฏิบัติทั้งหมดนั่นเอง
- Master of Music (MM/MMus) หลักสูตรนี้จะเกี่ยวข้องกับด้านดนตรีโดยเฉพาะซึ่ง MM จะมีการเรียนการสอนที่ผสมผสานระหว่างเนื้อหาที่คุณได้เป็นคนเลือกเองเช่น music performance องค์ประกอบของดนตรี หรือการประพันธ์ กับทฤษฎีดนตรีขั้นสูง ซึ่งผู้ที่จบหลักสูตรนี้อาจจะเลือกประกอบอาชีพในด้านดนตรีนั่นเอง
- Master of Education (MEd, MSEd, MIT, MAEd, MAT) เป็นหลักสูตรสำหรับคนที่อยากประกอบอาชีพในด้านการศึกษา โดยจะแบ่งออกเป็นหลายสาขา เช่น การจัดหลักสูตร การแนะแนว การสอน การศึกษาพิเศษ และการบริหารจัดการ MIT และ MAT ซึ่งจะมีทั้งการเรียนทั้งในห้องเรียน และการฝึกสอนแบบของจริงเพื่อให้ผ่านการประเมินต่าง ๆ
- Master of Engineering (MEng) หลักสูตร MEng เป็นทั้งหลักสูตรปริญญาโทด้านวิศกรรมศาสตร์ที่เน้นทั้งด้านภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ซึ่งบางหลักสูตรคุณอาจจะต้องเข้ารับการฝึกงานกับโรงงานอุตสาหกรรมจริงๆด้วย
- Master of Architecture (MArch) เป็นหลักสูตรปริญญาโทด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่จะเน้นการเรียนการสอนเพื่อการประเมินจากการฝึกงาน การสอบ และวิทยานิพนธ์หรือโปรเจ็คต่างๆ เพื่อให้ได้ใบอนุญาต แต่เนื่องจากหลักสูตร MArch นั้นจะเปิดสอนในหลายสาขา ซึ่งอาจจะทำให้คุณเจอชื่อตัวย่อหลักสูตรที่แตกต่างออกไป อย่างไรก็ตามคุณจะต้องเรียนในรายวิชาต่าง ๆ เช่น การออกแบบ วิศวกรรมโครงสร้าง ประวัติศาสตร์สถาปัติยกรรม ทฤษฎีสถาปัติยกรรม รวมถึงการฝึกงาน เป็นต้น
สนใจศึกษาต่อปริญญาโทที่ UK
หากน้อง ๆ มีความสนใจหรือต้องการไปเรียนต่ออังกฤษ สามารถลงทะเบียนกับพี่ ๆ SI-UK เพื่อขอรับข้อมูลต่าง ๆ และคำแนะนำเพิ่มเติมฟรี! ได้ตั้งแต่วันนี้ค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
4 เหตุผลที่คุณควรไปเรียนต่อ MBA ที่ลอนดอน