EP.4 มาแล้ว! กับรายการ UK UniStory by SI-UK Season 2 โดยมี โอบนิธิ เป็นไกด์นำทัวร์พาน้อง ๆ ทุกคนไปเยือนมหาวิทยาลัยชั้นนำในเกาะอังกฤษกับ The University of Sheffield มหาวิทยาลัยในเครือ Russell Group และเป็นหนึ่งในมหา'ลัย Red Brick ในตำนาน!
ที่ The University of Sheffield มีคอร์สให้เลือกเรียนมากถึง 350 คอร์ส โดยสาขาวิชาที่โด่งดังจากมหา’ลัยนี้ก็จะมี Architect, Journalism, Business เเละ Engineering และมหาวิทยาลัยยังเป็นพันธมิตรกับบริษัทที่โด่งดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น IBM, Rolls-royce, AstraZeneca เเละ Ernst & Young, BBC
วันนี้เราก็ขอพาทุกคนไป tour campus เเบบจุก ๆ เน้น ๆ ให้รู้กันไปเลยว่ามาเรียนที่นี่เเล้วมันดียังไง Landmark ไหนเป็น Highlight บ้าง มาที่นี่เเล้วต้องไม่พลาดอะไร ไปดูกัน!
งั้นเรามาเริ่มจากจุดแรกกันก่อนเลย หลาย ๆ คนคงสัมผัสถึงความสวยงามเเละความขลังของอาคารเรียนนี้ เห็นอาคารอิฐเเดง ๆ เเบบนี้ ทาง SI-UK ของเราเคยพาไปเยี่ยมชมสถาบันอื่นมาบ้างเเล้ว ในช่อง UK UniStory ของเรา มหา’ลัยที่เป็นอิฐเเดง ๆ เเบบนี้นั่นเอง
Red Brick University ซึ่งมีที่มาจากอิฐแดง ตรง ๆ ตามชื่อเลย โดยตัวอิฐแดงนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่บอกว่าตัวตึกนี้มีความเก่าแก่และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่าง Engineering, Science และ Medicine ซึ่งทาง The University of Sheffield ก็ถือว่าเช็คผ่านทุกข้อของการเป็นหนึ่งในกลุ่มมหา’ลัย Red Brick ทั้งเป็นหนึ่งในมหา’ลัยที่มีความเก่าเเก่สุดในอังกฤษ โดยเริ่มพัฒนาเป็นมหา’ลัย ตั้งเเต่ปี 1905 และยังโด่งดังในเรื่อง Engineering อีกด้วย
เเละอีกหนึ่งตึกสำคัญที่มีชื่อว่า Firth Court เป็นหนึ่งใน Landmark ที่อยู่คู่กับมหา’ลัยมาตั้งเเต่ต้นยันปัจจุบันเลย น้อง ๆ คนไหนที่กำลังจะมาเรียนอย่าลืมมาถ่ายรูปที่นี่กันนะ
และที่นี่มีตึกเรียนที่สูงที่สุดใน UK ซึ่งอยู่ที่นี่นั่นเอง มีทั้งหมด 22 ชั้น มีความสูงอยู่ที่ 78 เมตร นั่นก็คือตึก Arts tower ซึ่งเป็นอาคารเรียนของน้อง ๆ ที่เรียนวิชาสถาปัตยกรรมและภูมิสถาปัตยกรรม อีกทั้งยังมีคาเฟ่ และ Lecture theatre หรือว่าห้องเลคเชอร์ที่อัพไซส์นั่นเอง
ยังไม่หมดนะทุกคน ภายในตึกแห่งนี้นั่นยังมีสิ่งที่น้อง ๆ ทุกคนต้องมาเช็คอินกัน ถ้าไม่ได้ทำสิ่งนี้ถือว่า ไม่ได้มาเรียนที่ The University of Sheffield ถ้าอยากรู้แล้ว ตามไปดูกันในคลิปเต็มได้เลย!
และไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือ ลิฟท์ Paternoster ที่สูงที่สุดในโลก หรือ ลิฟท์ที่ไม่มีวันจอด การขึ้นเจ้าลิฟท์ตัวนี้ถือเป็นสิ่งที่ต้องทำถ้าหากได้มาเรียนที่ The University of Sheffield
อีกหนึ่งตึกที่สวยมากของมหาวิทยาลัย Sheffield เป็นตึกวิศวะนั่นเอง ที่มีชื่อตึกว่า Diamond เพราะเหล็กพวกนี้ทำมาจากเหล็กแผ่นแก้วซึ่งทำจากผลิตภัณฑ์รีไซเคิลทั้งหมด เป็นมหา’ลัยที่ใส่ใจถึงสิ่งแวดล้อมจริง ๆ
ข้างในมี Lab ของหลายสาขาด้วยกัน และยังมีห้อง Lab เฉพาะทางถึง 19 ห้องทีเดียว แต่ว่าทั้งตึกก็ไม่ได้มีแค่ Lab ทางด้านวิศวกรรมนะ เขายังมีทั้ง learning space, lecture theatre และร้านอาหาร ที่ให้น้องนักศึกษาคนอื่นมา hang out หรือนั่งติวหนังสือได้ อีกทั้งยังเปิด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
ที่มหาวิทยาลัย Sheffield มีบทบาทสำคัญในการคิดค้นและผลิตเหล็ก โดยเหล็กที่เขาผลิตเนี่ยยังถูกเอาไปใช้สร้างสะพาน Brooklyn Bridge อีกด้วย
ขอพาทุกคนไปกันต่อที่ St George’s Church ก่อตั้งประมาณปี 1821 แต่ต่อมาก็ถูกซื้อและเปลี่ยนให้เป็นห้อง Lecture Theatre โดมหาวิทยาลัย Sheffield ในปี 1994 ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นสถานที่ให้จัดอีเวนท์ รวมไปถึงห้อง Lecture และก็หอพักนักศึกษา ซึ่งถึงแม้ว่าภายนอกเขาจะดูเหมือนโบสถ์แบบนี้ แต่ทางด้านภายในก็มีการ renovate ใหม่ให้ดูเหมาะกับการเรียน และอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
ก็อย่างที่บอกไปว่าถึงแม้ภายนอกตึกจะเป็นโบสถ์ แต่ว่าภายในก็มีการ Renovate ใหม่ แต่อย่างในโซนหอพัก จากที่เรามองเห็นด้านนอกตรงหน้าต่างเขาก็ยังจะเก็บหน้าต่างแบบออริจินัลไว้ให้อยู่ พวกศิลปะกระจกสีแบบในโบสถ์เขาก็ยังคงเก็บไว้นะ ถือว่าเป็นกิมมิคเล็ก ๆ ของในแต่ละห้องก็ว่าได้ ก็ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการนอนในโบสถ์แบบนี้
และด้านบนหลังคา ก็ยังมีการทำรังให้กับครอบครัวเหยี่ยวเพเรกริน อยู่ที่ด้านบนของโบสถ์ พร้อมกับกล้อง Webcam ที่จะติดอยู่บริเวณใกล้กับรังนกเพื่อเหล่าคนที่ชื่นชอบนก สามารถเข้าไปดูน้องนก live สดได้ผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยอีกด้วย
ไปกันที่ตึก The Wave Building ของคณะ Social Science หรือ Faculty of Social Sciences (FoSS) ตึกแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Information School ซึ่งสอนหลักสูตร Data Science และหลักสูตรด้านเศรษฐศาสตร์อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งคอร์สที่นักเรียนจากทั่วโลกเลือกมาเรียนต่อมากที่สุด
ขอบอกนิดนึงนะว่าอาคารหลังนี้ได้ชื่อว่าเป็นอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรืออาคารปลอดคาร์บอน (Net Zero Carbon) ที่เข้าใจง่าย ๆ ก็คือเป็นอาคารที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยการสร้างสมดุลให้กับสภาพภูมิอากาศของโลกนั่นเอง
ซึ่งมหาวิทยาลัย Sheffield เขาใส่ใจสิ่งแวดล้อมจริง ๆ นะ เพราะมหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมในโครงการวิจัยกว่า 80 โครงการที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ และเพิ่งได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 50 อันดับแรกของการจัดอันดับโดย the Times Higher Education Impact Rankings อีกด้วย
ในส่วนข้างในตึกมีความโมเดิร์นมาก รวมถึงยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย กว้างขวาง รวมถึงหอประชุมขนาดใหญ่ ห้องทดลองต่าง ๆ ในส่วนพื้นชั้นล่างก็จะเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการ หรืองาน showcase ต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ รวมไปถึงนวัตกรรมที่ล้ำสมัยจนถึงการพูดคุยและเวิร์กช็อปที่น่าสนใจ
เราก็ขอพาทุกคนไปดูอีกคณะที่ขึ้นชื่อของที่นี่ นั่นก็คือโรงเรียนชั้นนำระดับโลกด้านธุรกิจและการจัดการ เพราะที่นี่ได้รับการรับรองจาก Triple Crown นั่นเอง
สำหรับน้อง ๆ ที่สงสัยว่า Triple Crown คืออะไร มันก็คือสถาบันการศึกษาที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการศึกษาระดับนานาชาติ อย่างครบถ้วนจาก 3 องค์กรยักษ์ใหญ่ของโลกนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น
- Association to Advance Collegiate Schools of Business
- EFMD Quality Improvement System
- Association of MBAs
โดยที่กล่าวมาด้านบนจะมีหน้าที่คอยวัดระดับและประเมิน Business School ในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านนักศึกษา อาจารย์ หลักสูตร งานวิจัย เครือข่ายและผลงานอื่น ๆ ของ Business School ทั้งในระดับปริญญาตรี โท และเอก
สำหรับใครที่กำลังเล็ง ๆ คอร์สด้าน Business ที่นี่มีหลักสูตรให้เลือกเรียนค่อนข้างหลากหลายนะ ไม่ว่าจะเป็น MBA ธุรกิจระหว่างประเทศ การเงินและการบัญชี และการตลาด
น้อง ๆ ที่มาเรียนที่นี่จะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับบริษัทในอังกฤษและมีโอกาสได้นำเสนองานกับนักลงทุนตัวจริง หรือที่เรียกว่า pitching นอกจากนี้น้อง ๆ ยังได้ไปดูงานที่บริษัทระดับโลกอีกด้วย ใครมาสาย Business ที่เชฟฟิลด์ตอบโจทย์มาก ๆ
ที่ตึกนี้เขาจะมี Canteen เป็นของตัวเองด้วยนะ น้อง ๆ ก็มาซื้อของ ทานข้าวกลางวันร่วมกับเพื่อน ๆ ซึ่งมันดีมาก ๆ เลยนะ เพราะช่วยให้น้อง ๆ สนิทกันมากขึ้น และได้พบเจอและทำงานร่วมกับคนที่หลากหลาย ทำให้เราเปิดใจมากขึ้น ได้เรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ หรือเรื่องเดิมจากต่างมุมมอง บางคนอาจจะเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจกันได้ในอนาคต ซึ่งมันเป็นกำไรอย่างนึงของการมาเรียนต่อต่างประเทศเลย
ตามไปต่อกันที่ Student Union มีไว้เพื่อช่วย support นักศึกษาของตัวเองเเละ SU ของ Sheffield เนี่ยก็มีชมรมถึง 350 ชมรม โดยที่นักศึกษาสามารถไปลองเข้าก่อนได้ว่าชอบหรือไม่ชอบ ไม่ว่าจะสาย sport สาย party สายการเรียน SU ที่นี่ก็มีหมดเลย เเละก็ยังได้รับ feedback ความพึงพอใจจากกลุ่มนักศึกษามาเป็นอันดับ 1 ในอังกฤษอีกด้วย
ยังไม่พอนะ เห็นเขาบอกกันว่าที่ Student Union ได้รับรางวัล Best Student Union มาเป็นเวลา 6 ปีซ้อนจากอังกฤษ งั้นเราต้องไม่พลาดที่จะมาทำความรู้จักกันซักหน่อยว่า SU ที่เขาว่ากันว่าเป็นอันดับ 1 ของประเทศเนี่ยมีอะไรเด็ด ๆ บ้าง อย่าลืมตามดูที่คลิปด้านบนเลย
อย่าง Student Advice Centre ของที่นี่จะช่วยซัพพอร์ตน้อง ๆ ในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการเรียน สุขภาพทั้งกายและใจ แล้วก็มีช่วยในการหางานอย่าง Career & Skill Hub อีกด้วย หากสนใจไปเรียนที่ The University of Sheffield สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับพี่ ๆ SI-UK มาได้เลย พี่ ๆ ใจดี ให้คำปรึกษาฟรี ไม่ค่าใช้จ่ายแน่นอน
Study in the UK
สำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนต่ออังกฤษ เช่น หลักสูตร คุณสมบัติ และขั้นตอนการสมัครเรียนที่ มหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศอังกฤษ สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของ SI-UK ฟรี! ได้ตั้งแต่วันนี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ