น้อง ๆ คนไหนอยากไปเรียนต่ออังกฤษที่ Top UK University มารวมกันตรงนี้ค่ะ! วันนี้พี่ ๆ SI-UK ขอพาไปส่องมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกจาก UK กับหลักสูตร สาขาวิชาชื่อดังที่ใคร ๆ ก็อยากไปเรียนต่อ แถมมหาวิทยาลัยทั้ง 7 ยังเป็นสมาชิกของ Russell Group อีกด้วย
ใครที่สนใจไปเรียนต่อภายในปีนี้ก็สามารถสมัครเรียนกับพี่ ๆ SI-UK ได้เลยค่ะ
1. University College London
University College London (UCL) เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ Top 10 ของโลก! ที่เก่าแก่ที่สุดในลอนดอน มหาวิทยาลัยจะตั้งอยู่ใจกลางเมืองลอนดอนล้อมรอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย เช่น ร้านอาหารหลากหลายเชื้อชาติ บาร์ ร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ สวนสาธารณะ ถ้าอาศัยอยู่ใกล้แถวนี้เรียกว่าสบายสุด ๆ ไปเลยค่ะ
UCL เป็นสมาชิกของกลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำ Russell อันทรงเกียรติ และเป็นมหาวิทยาลัยในกลุ่ม Golden Triangle เช่นเดียวกับ Oxford และ Cambridge โดยอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และศิษย์เก่าของ UCL ได้รับรางวัลโนเบลทั้งหมด 30 รางวัลเลยทีเดียว!
โดยค่าเล่าเรียนของนักเรียนต่างชาติขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่เราจะเรียนต่อ เช่น หลักสูตรกฎหมายจะเริ่มต้นประมาณ 23,300 ปอนด์ และหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์จะเริ่มต้นประมาณ 31,200 ปอนด์ เป็นต้น (ค่าเล่าเรียนอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต)
หลักสูตรชื่อดังของ UCL คือ
- Medincine
- Science
- Law
- Business
- Economics
- Psychology
2. King's College London
King's College London (KCL) เป็นมหาวิทยาลัยใจกลางกรุงลอนดอนที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของ UK รวมถึงยังถูกจัดให้อยู่อันดับที่ 35 ของโลก! โดย the QS World University Rankings ประจำปี 2022
ที่นี่มีนักเรียนมากกว่า 26,000 คน ซึ่ง 10,600 คนนั้นจะเป็นนักเรียนระดับปริญญาโทขึ้นไป ที่มาจาก 140 กว่าประเทศ มหาวิทยาลัย King’s College London จึงมีทีมงานที่ช่วยให้คำแนะนำแก่นักเรียนต่างชาติ ในเรื่องเกี่ยวกับการเรียนต่อ และการใช้ชีวิตในกรุงลอนดอนอย่างต่อเนื่องนั่นเอง และค่าเล่าเรียนของ KCL จะอยู่ที่ประมาณ 17,050 - 34,650 ปอนด์ ซึ่งแต่ละคณะ สาขาและหลักสูตร Tuition Fees จะแตกต่างกันออกไปค่ะ
หลักสูตรชื่อดังของ King's College คือ
3. University of Edinburgh
มหาวิทยาลัย Edinburgh ตั้งอยู่ที่สก็อตแลนด์ เมืองอิดินเบอระ หนึ่งในดินแดนที่สวยที่สุดในโลก! รวมถึงยังเป็นหนึ่งในสุดยอดมหาวิทยาลัยของโลกทางด้านการแพทย์อีกด้วย
มหาวิทยาลัยมีทั้งหมด 22 คณะ มีนักเรียนประมาณ 27,500 คน โดยเป็นนักเรียนต่างชาติประมาณ 6,000 คน นอกจากนี้คณะ University of Edinburgh Business School หรือบริหารธุรกิจ ถือเป็นคณะที่ใหม่ที่สุดก่อตั้งในปี 2008 และมีนักเรียนไทยรุ่นแรกเป็นผู้ก่อตั้ง McDucation ซึ่งมหาวิทยาลัยติดอันดับต้น ๆ ของสก็อตแลนด์ทางด้าน Business ทุกสาขา และยังเป็น Top 25% ของ UK ในแต่ละด้าน และค่าเล่าเรียนของ Edinburgh จะอยู่ที่ประมาณ 18,800 - 24,600 ปอนด์ ซึ่งแต่ละคณะ สาขาและหลักสูตร Tuition Fees จะแตกต่างกันออกไปค่ะ
หลักสูตรชื่อดังของ Edinburgh คือ
4. Durham University
มหาวิทยาลัย Durham หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของ UK เป็นสมาชิก Russell Group ที่มีหลักสูตร Business School และ Law School ติด Top 100 ของโลก!
มหาวิทยาลัยจะเปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก มากกว่า 200 หลักสูตร แน่นอนว่าปัจจุบัมหาวิทยาลัย Durham อยู่ในระดับท็อป 100 ของโลกใน 17 สาขาวิชารวมถึงระดับท็อป 50 ใน 9 สาขาวิชา นอกจากนี้ค่าเล่าเรียนจะอยู่ที่ประมาณ 17,400 - 22,000 ปอนด์
หลักสูตรชื่อดังของ Durham
- Law (LLB and LLM)
- Business
- Psychology
- IT
- English Literature
5. University of Southampton
มหาวิทยาลัย Southampton เป็นสมาชิกของ Russell Group ตั้งอยู่ในเมือง Southampton บนชายฝั่งทางใต้ของอังกฤษ จะอยู่ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางใต้เพียงแค่ 1 ชั่วโมง เมืองนี้ถือว่าสวยงามเลยทีเดียว มีสถานที่น่าเที่ยวคือ New Forest และเกาะ Isle of Wight และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศอื่น ๆ ในยุโรป ผ่านการเดินทางโดยรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบินค่ะ
ซึ่งมหาวิทยาลัยมี 34 สาขา และ 24 สาขาที่ได้รับคะแนนสูงสุด (5 และ 5*) ใน Research Assessment Exercise ซึ่งเป็นการให้คะแนนด้านการวิจัยของมหาวิทยาลัยใน UK
นอกจากนี้ Times Higher Education (THE) ได้จัดอันดับ Southampton อยู่ในอันดับที่ 2 ในด้านรายได้ของการวิจัยมากกว่ามหาวิทยาลัยอื่น ๆ ของ UK ในด้าน physical sciences และ mathematics และยังได้อันดับที่ 3 ด้านรายได้ของการวิจัยด้าน engineering และ technology อีกด้วย ในส่วนของค่าเล่าเรียนจะอยู่ที่ประมาณ 18,520 - 22,760 ปอนด์ ซึ่งแต่ละคณะ สาขาและหลักสูตร Tuition Fees จะแตกต่างกันออกไปค่ะ
หลักสูตรชื่อดังของ Southamton คือ
- Business
- Engineering
- Science
- Biology
6. University of Birmingham
มหาวิทยาลัย Birmingham อยู่ในสมาชิก Russell Group เป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่อายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ในมืองเบอร์มิงแฮมห่างจากกรุงลอนดอนไปทางเหนือเพียง 150 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยนี้จะอยู่ที่ประมาณ 13,000 - 14,000 ปอนด์
มหาวิทยาลัยเปิดสอนทั้งหมด 5 คณะ ได้แก่
- Arts and Law
- Social Sciences
- Engineering and Physical Sciences
- Life and Environmental Sciences
- Medical and Dental Sciences
แน่นอนว่านักเรียนต่างชาติมักจะสนใจเรียนต่อที่นี่ในด้าน Business เพราะได้รับการยอมรับจากทั้ง 3 สถาบันให้เป็น Triple-Accredited Business School สาขายอดนิยม เช่น Politics and International Relations, International Business, MBA, และ Marketing
หลักสูตรชื่อดังของ Birmingham
- Business
- Drama
- Hospitality
- Sports Science
- Materials Technology
- Psychology, Physiotherapy
- Dentistry
- History of Art
- Architecture and Design
7. University of Bristol
มหาวิทยาลัย Bristol ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Bristol ที่มีแหล่งช้อปปิ้งเยอะมาก ๆ มหาวิทยาลัยเป็นสมาชิก Russell Group ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 58 ของโลก (QS World University Rankings 2021) และมีอัตราการจ้างงานระดับบัณฑิตศึกษาที่ยอดเยี่ยมโดยเป็นอันดับที่ 9 ใน UK
Bristol ยังเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความทันสมัย มีเรียนต่างชาติมากกว่า 150 ประเทศจากทั่วโลก ที่สำคัญนักเรียนทุกคนจะมีติวเตอร์ส่วนตัว หรืออาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อพบปะพูดคุยเป็นประจำ รวมทั้งบริการ Study Skills สามารถช่วยในการพัฒนาด้านวิชาการอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ ค่าเล่าเรียนของ University of Bristol จะอยู่ที่ประมาณ 20,100 - 38,000 ปอนด์ ซึ่งแต่ละคณะ สาขาและหลักสูตร Tuition Fees จะแตกต่างกันออกไปค่ะ
หลักสูตรชื่อดังของ Bristol
- Anatomy and Physiology
- Biosciences
- Business
- Engineering
- Computer Science
- Law
- Medical Science
- Liberal Arts
- Psychology
สนใจไปเรียนต่อที่ UK
หากน้อง ๆ สนใจไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยระดับท็อปของ UK หรืออยากขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรอื่น ๆ ที่มหาวิทยาลัยชั้นนำอังกฤษ สามารถลงทะเบียนรับคำปรึกษาจากพี่ ๆ SI-UK ได้ฟรี! ตั้งแต่วันนี้ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ปักหมุด! เรียนต่ออังกฤษ งบไม่เกิน 1 ล้าน! ที่่มหาวิทยาลัยชั้นนำ UK
ไม่มีคะแนน IELTS สมัครเรียนต่อ UK รอบกันยายน 2021 ได้ชัวร์!
ต้องรู้! วีซ่าทำงาน 2 ปีหลังเรียนจบในอังกฤษ (Post Study Work Visa) คืออะไร?