สำหรับน้องๆ ที่สนใจในเรื่องของเหตุบ้านการเมือง ประวัติศาสตร์และปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับการเมือง รวมไปถึงเรื่องของภาษาสมัยใหม่และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หลักสูตรด้านรัฐศาสตร์ระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในประเทศอังกฤษและสหราชอาณาจักร คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว
หลักสูตรด้านรัฐศาสตร์หรือ Politics เป็นเรื่องของการทำความเข้าใจความคิดหลักๆ และพลวัตรในระบบการเมืองการปกครองแบบต่างๆ วิธีการจัดการกับวิกฤตการณ์ของรัฐ หนี้สาธารณะ หลักสิทธิมนุษยชน และธรรมชาติของการอยู่ร่วมกัน เป็นต้น เพื่อให้เราได้เข้าใจโลกและเข้าใจความเป็นไปต่างๆ ทางสังคมได้อย่างลึกซึ้ง
และนี่คือ Top 5 มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรที่มีหลักสูตรด้านรัฐศาสตร์ (Politics) ที่ดีที่สุด จากตารางลีกของ Guardian University Guide ประจำปี 2020
Top Five Universities to Study Politics in the UK
1. University of St Andrews
University of St Andrews เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยเพียงไม่กี่แห่งใน UK ที่มีหลักสูตรแบบ single Honours degree ด้าน International Relations โดยเฉพาะให้เลือกเรียน โดยมหาวิทยาลัยมีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชา อาทิ ความมั่นคงของประเทศ (International Security) สันติวิทยาและความขัดแย้ง (Peace and Conflict Studies) การก่อการร้าย (Terrorism Studies) สถาบันในระดับนานาชาติ (International Institutions) ทฤษฏีสากล (International Theory) และภูมิภาคศึกษา (Regional Studies) เป็นต้น
2. University of Cambridge
University of Cambridge มี Department of Politics and International Studies (POLIS) ที่มีความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญมาก ทางด้านการเมืองระหว่างประเทศ (international politics) ประวัติศาสตร์ระหว่างประเทศ (international history) และกฏหมายระหว่างประเทศ (international law) ภาควิชายังมีความใกล้ชิดกับคณะและภาควิชาอื่นๆ เช่น สังคมวิทยา (sociology) จิตวิทยา (psychology) และเอเชียและตะวันออกกลางศึกษา (Asian and Middle Eastern Studies) ด้วย
3. University of Oxford
ภาควิชารัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - Department of Politics and International Relations (DPIR) ที่ University of Oxford จะเน้นไปที่ 3 แอเรียที่สำคัญๆ ได้แก่ รัฐกับการปกครอง (Government and politics) ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ (International relations and organisation) และสุดท้ายคือ ทฤษฎีการเมืองและปรัชญาการเมือง (Political theory and philosophy) ทั้งนี้ DPIR มีหลักสูตรรัฐศาสตร์แบบ joint-school degrees อยู่ 2 แบบให้เลือก ได้แก่ เรียน Politics ควบกับ History หรือหลักสูตร PPE คือเรียนด้าน Politics ควบกับ Philosophy และ Economics
4. Keele University
ด้วยบุคลากรหลากเชื้อชาติของ Keele ซึ่งมีชื่อเสียงอย่างมากในสาขาต่างๆ อาทิ การเมืองเปรียบเทียบ (Comparative Politics) พรรคการเมืองและการเลือกตั้ง (Parties and Elections) นโยบายศึกษษ (Policy Studies) นโยบายสาธารณะ (Public Policy) รัฐศาสตร์และนโยบายสิ่งแวดล้อม (Environmental Politics and Policy) และทฤษฏีการเมืองและทฤษฏีสากล (Political and International Theory) บวกกับชื่อเสียงในระดับสากลของตัวมหาวิทยาลัยเอง จึงทำให้ Keele University เป็นมหาวิทยาลัยแถวหน้าที่เชี่ยวชาญในด้านรัฐศาสตร์ของ UK
5. University of Warwick
บัณฑิตคณะรัฐศาสตร์ของ University of Warwick ส่วนใหญ่เมื่อเรียนจบแล้วก็จะแยกย้ายไปทำงานในสาขาต่างๆ อาทิ policy making, government, development, law, journalism ไปจนถึง banking เลยทีเดียว ความเจ๋งของคณะรัฐศาสตร์ที่นี่ สะท้อนผ่านการสำรวจ National Student Survey เมื่อปี 2018 ที่ Politics Department ได้รับคะแนนความพึงพอใจจากนักศึกษาสูงถึง 95% ซึ่งเป็นคะแนนที่สูงที่สุดในสหราชอาณาจักรในสาขานี้เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ สมาคมรัฐศาสตร์ศึกษา หรือ The Political Studies Association ยังได้จัดให้หลักสูตร Politics and International Studies ของ Warwick ให้อยู่ในกลุ่ม UK's 'big five' politics departments หรือ Top 5 คณะรัฐศาสตร์ของสหราชอาณาจักรเลยทีเดียว
Study Politics in the UK
น้องๆ ที่สนใจสมัครเรียนหรือต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาต่อด้านรัฐศาสตร์ในประเทศอังกฤษและสหราชอาณาจักร สามารถสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ฟรี โดยลงทะเบียนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของเราติดต่อกลับ SI-UK ยินดีให้ความช่วยเหลือในการสมัครเรียนทุกขั้นตอนฟรี โดยไม่มีค้าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนี้ เรายังมีบริการ Oxbridge Service สำหรับช่วยเหลือในการสมัครเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหราชอาณาจักรโดยเฉพาะ (มีค่าใช้จ่าย) ลงทะเบียนสอบถามได้เช่นเดียวกันครับ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
5 มหาวิทยาลัยอังกฤษยอดนิยม สำหรับนักเรียนไทยในปี 2019
5 Tips สำหรับเตรียมสอบ Aptitude Test เพื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยกลุ่ม Oxbridge
Check List เตรียมตัวสมัครเรียนในช่วง UCAS Clearing 2019
