น้อง ๆ ที่สนใจจะเรียนต่อในหลักสูตรปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์ในสหราชอาณาจักร อาจจะเคยเห็นชื่อหลักสูตรปริญญาอย่าง MEng หรือ BEng มาบ้าง และหลาย ๆ คนอาจจะยังสงสัยว่าวุฒิทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ทั้งสองวุฒินี้ เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเพื่อให้น้อง ๆ สามารถตัดสินใจได้ถูกว่าควรจะเลือกเรียนหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์แบบไหนดี หรือหลักสูตรไหนที่จะตรงกับใจของเรามากที่สุดไปดูกันเลย!
ก่อนอื่น มารู้จักชื่อเต็ม ๆ ของทั้งสองหลักสูตรกันก่อนดีกว่า BEng นั้นย่อมาจาก Bachelor of Engineering หรือวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต ส่วน MEng ย่อมาจาก Master of Engineering หรือวิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิตนั่นเอง
อัพเดท Top 10 มหาวิทยาลัยใน UK สาขา Engineering ปีล่าสุด
แต่ทั้ง MEng และ BEng นั้นถือเป็นหลักสูตรในระดับปริญญาตรีทั้งคู่ และรับผู้สมัครที่มีคุณสมบัติ หรือ entry requirements เหมือน ๆ กันแต่จะมีข้อแตกต่างคือ BEng ใช้ระยะเวลาในการเรียน 3 ปี ส่วน MEng นั้นจะเป็น Integrated Masters หรือหลักสูตรปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์ ที่บูรณาการคุณวุฒิปริญญาโทเข้ามาด้วย (เรียนควบ) และเมื่อจบการศึกษาจะได้ทั้งวุฒิปริญญาตรี และปริญญาโท Master of Engineering โดยใช้เวลาเรียนประมาณ 4 ปี MEng ถือเป็นหลักสูตร Undergraduate ที่มีคุณวุฒิสูงที่สุดในสหราชอาณาจักร
ข้อดีของหลักสูตร BEng
- ค่าใช้จ่ายถูกกว่า เวลาเรียนน้อยกว่า (3 ปี)
- เหมาะสำหรับนักศึกษาที่ตั้งใจไว้แล้วว่าต้องการวุฒิ Bachelor of Engineering เท่านั้น เพื่อไปทำงานหรือสมัครเรียนปริญญาโท (MSc) เฉพาะด้านในอนาคต หรือกระทั่งต้องการเปลี่ยนสายในการเรียนไปเลย เช่น เรียนต่อปริญญาโทด้านการบริหารและการจัดการ การบัญชี เป็นต้น ส่วนคำถามที่ว่า ปริญญาโทแบบ MSc นั้นต่างจาก MEng อย่างไร ตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ ได้ว่า MEng เป็นปริญญาตรีแบบ Coursework Based เรียนเป็นวิชา ๆ ไป ส่วน MSc หรือ Master of Science ส่วนใหญ่จะเรียนยากกว่าเพราะเป็น Thesis Based นั่นเอง
- หลักสูตร BEng ถือว่าเพียงพอแล้วต่อการประกอบอาชีพวิศวกรในบางประเทศ เช่น ในประเทศไทย เป็นต้น
ข้อดีของหลักสูตร MEng
- ได้ Chartered Engineer (CEng) ของ UK ทันที - ในส่วนของหลักสูตรทางด้านวิศวกรรมศาสตร์นั้น นักศึกษาที่เลือกเรียนหลักสูตร MEng จะได้รับคุณวุฒิ Chartered Engineer (CEng) จากสภาวิศวกรแห่งชาติโดยทันที ถือเป็นทางเลือกและทางลัดที่ดีที่สุด ในขณะที่คนที่เรียน BEng ยังต้องเข้าอบรม Incorporated Engineer (IEng) เพิ่มเติม + หาประสบการณ์การทำงาน (ประมาณ 4-5 ปี หลังเรียนจบเป็นอย่างน้อย) เพื่อให้เข้าคุณสมบัติ
- ได้ศึกษาอย่างลึกซึ้งและกว้างขึ้นกว่าเดิม - โดยนักศึกษาจะได้มีส่วนร่วมในโปรเจ็คท์ต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งโปรเจ็คท์ส่วนตัวและแบบทีม ซึ่งโดยทั่วไปก็มักจะมีความเกี่ยวข้องกับการทำงานจริง ๆ หรือร่วมงานกับบริษัทและองค์กรวิศวกรรมต่าง ๆ
- โอกาสในการจ้างงานที่สูงขึ้น - ด้วยทักษะที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งในส่วนของการทำงานเป็นทีม การตัดสินใจ ทักษะการสื่อสาร การมอบหมายงาน การระบุปัญหาและการแก้ไข นอกจากนี้เรื่องของค่าตอบแทนก็มักจะสูงกว่าบัณฑิตที่จบหลักสูตร BEng ด้วย
- ทางเลือกในการจบการศึกษา - ในกรณีที่เรียน MEng ไปแล้วเกิดเปลี่ยนใจอยากได้แค่วุฒิ BEng เพื่อออกไปทำงาน หรือเรียนต่อ MSc (ปริญญาโท) เฉพาะด้าน บางหลักสูตรของบางมหาวิทยาลัย เปิดโอกาสให้นักศึกษาเลือกได้ว่าจะจบที่ชั้นปีที่ 3 เพื่อรับวุฒิ BEng หรือจะเรียนต่อให้ครบ 4 ปี เพื่อรับวุฒิ Meng ก็ได้ แต่ผู้เรียนต้องตัดสินใจก่อนจบภาคเรียนการศึกษาปีที่ 3
จากข้อมูลคร่าว ๆ ข้างต้น คงพอจะทำให้น้อง ๆ ได้เห็นความแตกต่างระหว่างหลักสูตรทั้งสองชัดเจนขึ้น และสามารถตัดสินใจเลือกหลักสูตรได้ง่ายขึ้นไม่มากก็น้อย
เรียนต่อหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ในสหราชอาณาจักร
สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่สนใจไปเรียนต่อในหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยใน UK หรือหลักสูตรอื่น ๆ ก็สามารถลงทะเบียนติดต่อพี่ ๆ SI-UK เพื่อขอรับคำปรึกษา ฟรี! ได้ตั้งแต่วันนี้ค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทำไมต้องเรียน วิศวกรรมการบินและการผลิต (Aeronautical & Manufacturing Engineering)
6 สาขายอดนิยมของหลักสูตรวิศกรรมศาสตร์ ในUK