ข้อสอบ IELTS ถือเป็นการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่มีชื่อเสียงและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการศึกษาต่อในต่างประเทศ (โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร) ผลคะแนน IELTS ได้รับการยอมรับจากกว่า 10,000 องค์กรใน 140 ประเทศทั่วโลก รวมไปถึงโรงเรียน มหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐบาล นายจ้างสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และองค์กรวิชาชีพอื่น ๆ ในบทความชิ้นนี้ SI-UK มีคำแนะนำดี ๆ และทิปส์เด็ด ๆ ในการย่อย IELTS และเตรียมสอบด้วยตัวเองมาฝากน้อง ๆ โดยจะเริ่มกันที่สองพาร์ทแรก นั่นคือ การฟังและการอ่าน
IELTS Test Pattern 2018: แบ่งออกเป็น 4 พาร์ท
- Listening (การฟัง) ระยะเวลา 30 นาที ข้อสอบมี 4 ตอน (sections) 40 ข้อ (items)
- Reading (การอ่าน) ระยะเวลา 60 นาที ข้อสอบมี 3 ตอน (sections) 40 ข้อ (items)
- Writing (การเขียน) ระยะเวลา 60 นาที ข้อสอบมี 2 ข้อ (tasks)
- Speaking (การพูด) ระยะเวลา 11-14 นาที เป็นการสนทนาตัวต่อตัว (3 หัวข้อ)
IELTS Preparation Tips - Listening Section
IELTS Listening pattern:
ข้อสอบในพาร์ท Listening หรือการฟัง ถือเป็นส่วนแรกและส่วนที่สำคัญที่สุดในการสอบก็ว่าได้ โดยข้อสอบส่วนนี้จะแบ่งเป็นสี่ตอน (sections) มีเวลาให้ 40 นาที ในการเตรียมตัวสอบ ให้แบ่งทั้งสี่ตอนออกจากกันเพื่อโฟกัสในแต่ละส่วนต่างหาก
- One-on-one interaction: ในส่วนนี้น้อง ๆ จะได้ฟังบทสนทนาระหว่างหว่างคนสองคน อาจเป็นบทสนทนาทางโทรศัพท์หรือข้อความทั่วไป และให้จดบันทึกข้อมูลเฉพาะจากบทสนทนา วิธีที่ดีที่สุดในการเตรียมตัวสำหรับส่วนนี้คือ การฟังบทสนทนาให้มากที่สุด จับใจความใหได้ ลองฝึกฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษที่บ้านบ่อย ๆ ปัญหาหนึ่งที่เราคนไทยต้องเผชิญก็คือ สำเนียงและการพูดที่รวดเร็ว มีการกร่อนคำของเจ้าของภาษา อย่างไรก็ตาม เราสามารถเอาชนะอุปสรรคนี้ได้ หากหมั่นฝึกฝนด้านการฟังและการจดบันทึกให้บ่อยที่สุด
- Speech: สปีชหรือสุนทรพจน์ ในส่วนนี้ผู้เข้าสอบจะได้รับฟังสปีชในบริบททางสังคมหรือแนววิชาการและตอบคำถามต่าง ๆ ที่อยู่ในข้อสอบจากการฟัง โดยเป็นการวัดว่าเราจะสามารถเข้าใจแนวคิดหลัก หรือไอเดียของสุนทรพจน์ได้ดีมากน้อยขนาดไหน และเข้าใจปัญหาที่ได้รับการเน้นย้ำในสปีชนั้น ๆ หรือเปล่า
- Monologue: โมโนล็อกหรือบทพูดคนเดียว หรือบทพรรณนา อภิปราย ในส่วนนี้ก็จะคล้ายๆ กับ Speech คือเป็นการพูดคนเดียว เคล็ดลับการเตรียมตัวสำหรับส่วนนี้ก็คือ การหัดฟังสปีช หรือการพูดอภิปรายในที่ชุมชน แล้วจับใจความสำคัญให้ได้
- Group discussion: การอภิปรายหรือการสนทนาแบบกลุ่ม ส่วนนี้จะเกี่ยวข้องกับการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนจำนวนไม่เกินสี่คน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่น้อง ๆ จะต้องทำความคุ้นเคยกับบทสนทนาประเภทนี้ และแยกให้ออกว่าใครเป็นใครในบทสนทนา และเช่นเดียวกับทุกพาร์ท ความถี่ในการฝึกฝนจะช่วยสร้างทักาะในการฟังให้กับน้อง ๆ ในที่สุด
ทิปส์สำหรับการเตรียมสอบ IELTS Listening
- ขั้นตอนแรก ก่อนลงมือทำข้อสอบจริง จะมีการแนะนำข้อสอบและแสดงตัวอย่างของข้อสอบ น้อง ๆ ควรอ่านและลองฟังข้อสอบตัวอย่างอย่าตั้งใจ เพื่อทำความคุ้นเคยกับเสียงที่ได้ยิน สำเนียง ความดังของลำโพง และสถานการณ์ในเนื้อเรื่อง เพราะข้อสอบจริงก็จะมีลักษณะคล้าย ๆ กันนี้
- Multi-tasking หรือทักษะในการทำหลาย ๆ อย่างพร้อมกันในเวลาเดียวกัน สำคัญมาก สำหรับข้อสอบในพาร์ทของการฟัง เพราะน้อง ๆ ต้องฟังจับใจความไปด้วย ในขณะเดียวกันก็ต้องจดโน๊ต และทำข้อสอบไปด้วย ดังนั้น ต้องฝึกฝนทักษะนี้ให้เยอะ ๆ
- น้อง ๆ ต้องฝึกฟังจับใจความให้เป็น ทั้งแบบ พูดคนเดียว บทสนทนาระหว่างคนสองคน หรือแบบกลุ่ม เพื่อทำความคุ้นเคย
- การสะกดคำให้ถูกต้อง เป็นเรื่องสำคัญที่สำคัญมาก มีผู้เข้าสอบหลายคนที่เสียคะแนนเนื่องจากการเขียนผิดหรือสะกดผิด
- ฝึกทักษะการเขียนแบบ short-writing style หรือการจดย่อ ๆ ให้ได้ใจความ จะช่วยประหยัดเวลากว่า ในขั้นตอนการจดโน๊ตเนื้อหาที่ได้ยินเพื่อนำมาตอบคำถาม
IELTS Preparation Tips - Reading Section
ข้อสอบในส่วนนี้ จะเป็นการประเมินทักษะในการอ่านของผู้เข้าสอบ โดยทั่วไปน้อง ๆ จะได้รับบทความขนาดยาว สำหรับอ่านจับใจความ ตามด้วยชุดคำถาม ที่มีทั้งแบบ เลือกคำตอบเป็นข้อ ๆ (multiple choice) เลือกคำมาเติมเต็มประโยค (sentence completion) สรุปความ (summary writing) จับคู่ (matching information) และตอบคำถามสั้น ๆ (short-answers)
ทิปส์สำหรับการเตรียมสอบ IELTS Reading
- อ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้: อาจจะฟังดูน่าเบื่อ แต่มันไม่มีวิธีลัดหรือวิธีที่ดีกว่านี้แล้วจริง ๆ สำหรับน้อง ๆ ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับการอ่านภาษาอังกฤษ อาจเริ่มต้นด้วยการอ่านอะไรสั้น ๆ ง่าย ๆ เช่น โฆษณา การ์ตูน หรืออะไรที่น่าสนใจที่เราสามารถพบเจอได้ในอินเทอร์เน็ต เป็นต้น แล้วค่อย ๆ ไล่สกิลไปอ่านอะไรที่ยาวขึ้น เช่น บทความ หรือเรื่องสั้น เป็นต้น
- จดโน๊ต: ขอแนะนำให้จดบันทึกขณะอ่าน วิธีนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าใจรายละเอียดของเนื้อหา อะไรที่เราควรเน้นอะไร อะไรที่ควรสังเกต ฝึกอ่านและไฮไลต์
- หมั่นฝึกฝน: การอ่านโน๊ตย่อแต่อย่างเดียวไม่ช่วยอะไร ยังไงก็ควรต้องอ่านแบบจริง ๆ จัง ๆ การฝึกอ่านบ่อย ๆ และอ่านเนื้อหาทั้งหมด จะช่วยให้น้อง ๆ เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด และจดจำในสิ่งที่โน๊ตเอาไว้ได้ว่ามีความเป็นมายังไง นอกจากนี้ การอ่านซ้ำ ๆ ยังอาจทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ หรือนัยยะแฝงที่ซ่อนอยู่ในเนื้อหาที่อ่านอีกด้วย
- ฝึกอ่านแบบจับใจความ: การอ่านแบบจับใจความ เป็นกระบวนการเตรียมความพร้อมที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับพาร์ท Reading เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า ข้อสอบ เป็นการวัดความเข้าใจในเนื้อหาที่เราได้อ่าน การฝึกอ่านแบบจับใจความจะช่วยเกลาทักษะด้านนี้ให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีเคล็ดลับอื่น ๆ อย่างเช่น
- อ่านเนื้อเรื่องทั้งหมดอย่างรอบคอบ สรุปภาพรวมและประเด็นสำคัญของเนื้อเรื่องที่ได้อ่านในข้อสอบ
- จัดการกับเวลาให้ดี เพราะหากหมดเวลาก่อนทำข้อสอบเสร็จ ก็ไม่มีโอกาสให้แก้ตัวแล้ว
- ทำข้อสอบให้ครบทุกข้อ อย่าทิ้งกระดาษคำตอบให้ว่าง ต่อให้ไม่แน่ใจหรือตอบผิด ยังไงก็ควรตอบไว้ก่อน ดีกว่าทิ้งคะแนนไปเฉยๆ ข้อสอบไม่มีการหักคะแนนข้อผิด ดังนั้น จึงไม่ต้องกลัวคะแนนจะติดลบ
- เพื่อเป็นการประหยัดเวลา ให้เขียนคำตอบของเราลงบนกระดาษคำตอบโดยตรงไปเลย เพื่อป้องกันในกรณีที่กระชั้นชิดหรือทำไม่ทัน หากมีเวลาค่อยกลับมาเรียบเรียง แต่หากหมดเวลาก่อน อย่างน้อยก็ยังได้เขียนคำตอบส่ง
Study in the UK
นอกจากนี้ น้อง ๆ ท่านใดที่สนใจจะสมัครเรียนต่ออังกฤษ หรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร (UK) ก็สามารถ ลงทะเบียนเพื่อขอรับคำปรึกษาจากพี่ ๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อของ SI-UK ได้ทุกวัน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เคล็ด(ไม่)ลับ กับการเพิ่มคะแนน IELTS ให้ได้ 7.0