STEM หรือ STEM Education อีกหนึ่งสาขาวิชามาแรงในการไปเรียนต่ออังกฤษ ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่คุ้นเคย หรือไม่รู้ว่าเป็นการเรียนเกี่ยวกับอะไร วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจ และพาทุกคนไปทำความความรู้จักกับสาขาวิชานิ้ ที่ว่ากันว่า เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานไม่น้อยเลยทีเดียว
STEM คืออะไร
คำว่า STEM นั้น ย่อมาจาก Science Technology Engineering and Mathematics ถูกใช้ครั้งแรกโดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (the National Science Foundation: NSF) เพื่ออ้างถึงโครงการหรือโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ อย่างไรก็ตาม คำว่า STEM ไม่ได้มีนิยามตายตัว ทำให้ถูกนำไปใช้ในหลากหลายบริบท อาทิ ใช้อ้างอิงถึงกลุ่มอาชีพที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เป็นต้น
STEM เรียนเกี่ยวกับอะไร
ทางด้านของสาขาวิชาสะเต็มศึกษา หรือ STEM Education ที่เริ่มมีการเรียนการสอนอย่างแพร่หลายในมหาวิทยาลัยอังกฤษนั้น จะเป็นการศึกษาในรูปแบบบูรณาการ โดยเอาทั้งความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทางวิศวกรรม และคณิตศาสตร์ มาการเชื่อมโยงและใช้ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ และพัฒนากระบวนการใหม่ ๆ นวัตรกรรมใหม่ ๆ เป็นการต่อยอดหลักสูตรที่มีอยู่เดิม ให้สามารถนำมาใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
อ้างอิงจาก สสวท. การจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง STEM จะมีลักษณะ 5 ประการ
- เป็นการสอนที่เน้นการบูรณาการเป็นหลัก
- ช่วยให้ผู้เรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหาวิชาทั้ง 4 กับชีวิตประจำวัน และการประกอบอาชีพ
- เน้นการพัฒนาทักษะที่สำคัญในศตวรรษที่ 21
- ท้าทายความคิดของผู้เรียน
- เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์ เนื้อหาทั้ง 4 วิชา
จุดประสงค์ของการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา (Stem Education) คือการส่งเสริมให้ผู้เรียนรักและเห็นคุณค่าของการเรียนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ และเห็นว่าวิชาเหล่านั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถนำมาใช้ได้ทุกวัน โดยการศึกษาในสาขานี้ นักศึกษาจะได้พัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ที่เป็น key skills ได้แก่
- ทักษะการแก้ปัญหา (problem solving)
- ความคิดสร้างสรรค์ (creativity)
- การคิดวิเคราะห์ (critical analysis)
- การทำงานเป็นทีม (teamwork)
- การคิดอย่างอิสระ (independent thinking)
- ความคิดริเริ่ม (initiative)
- ทักษะการสื่อสาร (communication)
- ทักษะด้านดิจิทัล (digital literacy)
อย่างไรก็ตาม แม้หลาย ๆ มหาวิทยาลัยอาจจะยังไม่มีหลักสูตร STEM โดยตรง แต่หลักสูตรในสาขา Science, Technology, Engineering หรือ Mathematics ส่วนใหญ่ ก็ถือเป็นหลักสูตรที่เข้าข่ายเป็น STEM subject เช่นเดียวกัน หากมีการเรียนการสอนแบบสหวิทยาการครอบคลุมมากกว่าหนึ่งสาขา ยกตัวอย่างหลักสูตรปริญญาโท เช่น MSc in Computer Science หรือ MSc in Engineering, MSc in Mathematics ที่ต้องเรียนศาสตร์ทั้งสี่สาขา เป็นต้น
STEM สำคัญ และน่าสนใจอย่างไร
อย่างที่บอกไปว่า สาขาวิชานี้ถือว่ามาแรงเป็นอย่างมากในแวดวงการศึกษาต่ออังกฤษ แต่ทว่ายังมีคนที่สมัครเรียนและจบด้านนี้โดยตรงน้อยมาก ทำให้ความต้องการบัณฑิตด้านนี้ยังสูงมาก ส่วนหนึ่งอาจเนื่องมากจาก การเรียนที่เข้มข้น และเน้นด้านวิจัย และหลายคนอาจมีความเข้าใจอย่างผิวเผินต่อสาขาวิชานี้ แต่จริงๆ แล้ว STEM ถือว่ามีอิมแพคมากพอสมควรต่อระบบการศึกษาและสังคม
โดยเฉพาะในอเมริกาและยุโรป เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่า นี่เป็นการศึกษาแบบต่อยอดที่มีจุดมุ่งหมายคือ การผลักดันและอัพสปีดการเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตในโลกยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ สะเต็มศึกษา ยังถูกออกแบบมาเพื่อเข้าถึง ผู้หญิง กลุ่มคนชายขอบ และนักศึกษาที่ไม่เคยสนใจรายวิชาใน STEM มาก่อน ให้หันมาสนใจศึกษาเรียนรู้ในด้านนี้ให้มากขึ้น
ในด้านการจ้างงาน ผู้เรียนที่มีทักษะด้าน STEM ถือว่าได้เปรียบกว่าคนทั่วไป บริษัทใหญ่ ๆ ในสหราชอาณาจักร 9 ใน 10 แห่ง มีความต้องการจ้างบัณฑิตที่จบในสาขา STEM เนื่องมาจากทักษะต่าง ๆ อาทิ การคำนวณ การคิดเชิงวิเคราะห์ การคิดเชิงวิพากษ์ การแก้ปัญหา ฯลฯ ซึ่งเป็นทักษะที่นำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลายหน่วยงานและหลายสาขา ทำให้มีตำแหน่งงานที่เปิดรับผู้ที่จบด้านนี้กว่า 140,000 ตำแหน่ง ส่วนในสหรัฐอเมริกา มีการคาดการณ์ว่าจะมีตำแหน่งงานที่รับผู้ที่จบสาขาสะเต็มศึกษา ระหว่างปี 2010 ถึง 2020 ถึง 2 ล้านตำแหน่งเลยทีเดียว
Study in the UK
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจเรียนต่ออังกฤษ ในมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่น ๆ ของสหราชอาณาจักร เทอมกันยายน 2022 สามารถลงทะเบียนติดต่อเพื่อขอข้อมูลพร้อมรับคำปรึกษา จากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของ SI-UK ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหลักสูตรต่าง ๆ หรืออื่น ๆ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ฟรี!
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
5 เหตุผลที่ทำให้ De Montfort University เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการไปศึกษาต่อ
6 เหตุผลดีๆ ที่ทำให้เราอยากไปเรียนที่ Royal Holloway, University of London