มหาวิทยาลัยชั้นนำของอังกฤษ เช่น อ็อกซ์ฟอร์ด เคมบริดจ์ และมหาวิทยาลัยระดับท็อปอื่น ๆ ที่เรียกกันติดปากว่า มหาวิทยาลัยกลุ่ม Oxbridge คือที่สุดของความใฝ่ฝันของใครหลาย ๆ คน และนี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมมหาวิทยาลัยในกลุ่ม Oxbridge จึงเป็นที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากแวดวงวิชาการทั้งใน UK และต่างประเทศ
การรับนักศึกษาจำนวนไม่มาก และคัดกรองอย่างเข้มงวด
ในขณะที่หลายๆ มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร คัดเลือกนักศึกษาจากทักษะหลายๆ ด้าน จากความสนใจพิเศษของนักศึกษาที่มีต่อหลักสูตร หรือประสบการณ์การทำงาน ฯลฯ มีเพียงผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมและความกระตือรือร้นเท่านั้น ที่มหาวิทยาลัยกลุ่ม Oxbridge ใช้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก
ยกตัวอย่างที่ อ็อกซ์ฟอร์ด เกณฑ์การรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีโดยทั่วไปคือต้องมีคะแนน A – Level ระหว่าง A*A*A และ AAA (ขึ้นอยู่กับรายวิชา) ขณะที่คนที่ได้ออฟเฟอร์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ A*AA
การเรียนที่หนักหน่วง
วัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ อย่าง ออกซ์ฟอร์ด และเคมบริดจ์ อันเป็นที่ทราบกันดี ได้แก่การเรียนการสอนที่เข้มงวด
ยกตัวอย่างเช่น ที่เคมบริดจ์ ที่ซึ่งนักศึกษาจะได้รับการทดสอบว่าตัวเองเหมาะสมกับระบบและค่านิยมของมหาวิทยาลัยหรือไม่ ตลอดระยะเวลาสามปีของการศึกษาในระดับปริญญาตรี
ด่านแรกคือการเรียนที่หนักหน่วง ที่นี่แม้แต่นักศึกษาที่ขี้เกียจที่สุดยังไม่หนีไม่พ้นต้องเขียนรายงานอย่างน้อย อาทิตย์ละ 1 ชิ้นเสมอ (ถ้าโชคดีนะ) แต่ละเทอมแม้จะสั้นๆ แต่บรรยากาศก็สุดจะเข้มข้น ดุดัน มีการแข่งขันสูงมาก ทั้งตัวหลักสูตรเองที่มักอัดจนแน่นเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ นักศึกษาเคมบริดจ์มักต้องเกาะกลุ่มกันทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย น้อยครั้งมากที่จะได้ทำงานเดี่ยวๆ ซึ่งหมายความว่า ทุกคนในกลุ่มจะต้องซีเรียสกับการทำงานร่วมกันแบบเต็มร้อย หากว่าเราช้ากว่าคนอื่นๆ หรือชิลเกินไป รับรองว่าปัญหาตามมาอีกเพียบแน่ๆ ปัญหาใหญ่ของที่นี่ไม่ใช่เรื่องของความเก่งหรือหรือความฉลาด แต่เป็นเรื่องของปริมาณงาน เพราะทุกคนต้องเรียนหนักเหมือนกันหมด
รูปแบบของการเรียนการสอนที่นักศึกษาต้องพึงพาตัวเองเป็นหลัก
สไตล์ของการเรียนการสอนในเคมบริดจ์ และ อ็อกซ์ฟอร์ด มักเป็นการถกเถียงกันในชั้นเรียนหรือ oral debate ที่หากไม่ใช่คนกล้าแสดงออกหรือพูดไม่เก่ง เสียงดังไม่พอ เราไม่ขอแนะนำ เพราะต่อให้ฉลาดหรือขยันแค่ไหน หากไม่รู้จักแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียนก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในชั้นเรียน
นอกจากนี้ยังมักมีการเรียนแบบตัวต่อตัว หรือ one-to-one tutorial system ที่มีการแข่งขันอย่างสูง อย่างที่เราเคยพูดถึงไปแล้วในบทความ Oxford และ Cambridge: ความเหมือนและความต่างของสองมหาวิทยาลัยที่ทรงอิทธิพลที่สุดใน UK
การแข่งขันที่สูงมาก
เรามักจะเห็นนักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยในกลุ่ม Oxbridge ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ก็มีนักศึกษาจากสถาบันเดียวกันอีกมากมายเช่นกันที่ต้องพบทางตัน หลายๆ คนรู้สึกกดดันเพราะมาพบเข้ากับความจริงที่ว่าชีวิตในมหาวิทยาลัยดังๆ ไม่เหมาะกับตัวเอง ความรู้สึกกดดันเหล่านี้แสดงออกมาในหลายๆ รูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการแข่งขัน เพราะไม่มีใครอยากถูกทิ้งไว้ข้างหลัง บางแห่งมีการตรวจเช็คผลการเรียนของนักศึกษาอย่างสม่ำเสมอ หากไม่ผ่านเกณฑ์อาจถูกภาคทัณฑ์ หรือ academic probation ซึ่งก่อให้เกิดความเครียดสูงมากกับผู้เรียน ที่ปกติ บรรยากาศในการเรียนก็เครียดพอตัวอยู่แล้ว
การแข่งขันสามารถสร้างแรงผลักดันให้เราพัฒนาตัวเองขึ้นได้ก็จริง แต่ในอีกทางหนึ่ง มันก็ทำให้หลายๆ คนรู้สึกพ่ายแพ้ ท้อถอย หมดกำลังใจได้เหมือนกัน
จุดประสงค์ของบทความชิ้นนี้ ไม่ได้ต้องการโจมตีสถาบันการศึกษา หรือทำลายความตั้งใจของน้องๆ หลายคนที่มีความฝันอยากจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำเหล่านี้นะครับ เพียงแต่อยากให้ข้อมูล ให้น้องๆ สามารถตัดสินใจเลือกหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่เหมาะกับตัวเองจริงๆ เท่านั้นเองครับ เพื่อการเรียนและการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
สนใจเรียนต่อ Oxbridge
สำหรับน้อง ๆ ที่มีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร (UK) รวมทั้งข้อมูลหลักสูตร หรือต้องการสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยกลุ่ม Oxbridge สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของ SI-UK ได้ฟรีตั้งแต่วันนี้
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
Top 5 หลักสูตร History of Art ในสหราชอาณาจักร (UK)